1.ลองแบ่งจ่าย

เงินเดือน 15,000 บาท  น่าจะแบ่งเป็นค่าใช้จ่าย 10,000 บาท แล้วก็ผ่อน 5,000 บาท คิดย้อนกลับ. เอาเงินผ่อนตั้งเพื่อหา ดาวน์กี่บาท  เงินผ่อน 5,000 บาท / เดือน.  หรือ 60,000 บาท/ปี

– ถ้าผ่อนระยะเวลา  4  ปี  เป็นเงิน 240,000 บาท. (ถ้าดอกเบี้ย 5%  :  เงินต้น 2 แสน + ดอกเบี้ย 4 หมื่น )

ดาวน์ 590,000 – 200,000 = 390,000 บาท

– ถ้าผ่อนระยะเวลา  7  ปี  เป็นเงิน 420,000 บาท. (ถ้าดอกเบี้ย 5%  :  เงินต้น 3.1 แสน + ดอกเบี้ย 1.1 แสน )

ดาวน์ 590,000 – 310,000 = 280,000 บาท

จากคุณ  glorious

2.ตัวเองให้พร้อมและไม่ต้องเกินตัว

คิดง่ายๆครับ ค่าใช้จ่ายสำหรับรถอีโค่คาร์เล็กๆคันนึง ค่าผ่อน+ค่าน้ำมัน ตกเดือนละหมื่นนึงสำหรับคนที่ขับรถเดือนละประมาณ1,000กิโลเมตร (ขับไม่เยอะ)ถ้าเดือนที่ต้องซ่อมบำรุงหรือต่อประกันต่อภาษี ก็จะต้องบวกเงินเพิ่มอีกพอสมควร ลองคิดเล่นๆว่าเหลือเงินใช้เดือนละ 3,000-4,000 คุณไหวมั้ยถ้าไหวก็ลองดูครับแต่ห้ามมีใครป่วยเลยนะ ห้ามเงินช๊อตด้วยคนที่ทำได้ครบ7ปีก็มี ที่ไม่รอดก็โครตเยอะ ลองดูครับ

จากคุณ หิมะละลาย

3.ดาวน์รถสูงๆ

ควรต้องดาวน์รถสูงๆแทนค่ะ   เอารุ่นประหยัดสุดก็พอ  ดาวน์ไปเยอะๆ 30 – 40% อัดๆเข้าไป แล้วค่างวดจะเบาลงเยอะเลย   แต่อย่าลืมคำนวณค่าน้ำมัน ค่าประกัน ค่าบำรุงรักษา

1.คำนวณระยะทางจากบ้านไปทำงานกี่กิโล เป็นย่านรถติดไหม

2.ค่าประกันต่อปี เครื่อง1.2 ก็น่าจะประมาณ 14,000 – 18,000 ต่อปี

3.ค่าบำรุงรักษาเช็คระยะปีละประมาณ 2 ครั้ง ก็ตีสัก 5,000 ต่อปี

รวมๆแล้วลองคิดดูว่าเท่าไร ไหวไหม  มันคุ้มกับการที่เราต้องแลกเงินจำนวนนี้เพียงแค่ไว้ไปทำงานหรือไม่  นี่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่ากิน ค่าสวยงาม ค่าผู้หญิงแบบเราๆ ค่าเที่ยาวหาประสบการณ์บ้าง  ค่าภาษีสังคมบ้าง  ค่าเจอเพื่อนบ้าง ค่าซองแต่งงานเพื่อน  ค่ากินของแปลกๆใหม่ๆของอร่อย  ค่ารักษาพยาบาลส่วนที่เบิกที่ทำงานไม่ได้  ค่าพาพ่อแม่ไปเที่ยว คุณอาจจะกินอิ่ม แต่คงไม่ได้คุณภาพ  เพราะได้ถูกค่าใช้จ่ายต่างๆ 3 ข้อข้างบนมาเบียดชีวิตแล้วล่ะก็มันไม่สวยแน่ ชีวิตนี้เราคงไม่ได้มีแค่รถอ่ะค่ะ  มันมีทุกอย่างแหล่ะ ยกเว้นว่าคุณอาจนำรถนี้ขับไปทำงานพิเศษอื่นๆได้อีกในวันหยุดอันนี้ก็จะสนับสนุนเลย คือจะกระซิบเลยว่าซื้อรถเนี้ยะราคาหลายแสน  มันก็เหมือนเอาเงินอนาคตมาใช้ก่อน สมมติเราซื้อรถราคา 600,000 ก็เหมือนเอาเงินอนาคตมาใช้ก่อน แล้วเราก็ผ่อนไป  พอสมมติครบสักอ่ะ 5 ปี  มูลค่าแทบไม่เหลือ น้อยมากกก แต่ถ้าหากวันนี้ไม่ซื้อรถนะ เราจะมีเงินเก็บได้ตั้ง 600,000 เชียว  เราเคยคิดแบบนี้เหมือนกัน  เพราะเราเองก็ซื้อมาคันที่สองแล้ว  สองคันนี้ถ้ารวมกันที่ผ่านมาก็ล้านกลางๆแล้วอ่ะ  แอบเสียดายเหมือนกัน

จากคุณ สมาชิกหมายเลข 3440595

4.ควรมีเงินเก็บสำรองยามฉุกเฉินไว้บ้าง

เงินเดือน 15,000 บาท / เดือน ถ้าจะออกรถจริง ๆ ก็ออกได้ครับ แต่….!!! มีเงินเก็บสำรองยามฉุกเฉินไว้บ้างหรือยังครับ ถ้ายังไม่มี แนะนำให้เก็บเงินให้ได้ก่อนสัก 2 – 30,000 บาท เพราะหากจำเป็นต้องใช้เงิน มันจะลำบากเอาครับ (เคยประสบการณ์แบบนี้กับตัวเองมาแล้ว) อีกเรื่องคือ รถที่ซื้อมาไม่ใช่จ่ายแค่ค่าผ่อนงวดรถ ประกันรายปี / ค่าเสื่อมสภาพ / ค่าน้ำมันอันนี้ตัวดีเลย คนที่มีรถคันแรก ก่อนจะออกรถมักบอกคนรอบข้างว่า เอาไว้แค่ขับไปทำงาน แต่ความเป็นจริงมันไม่ใช่ครับ พอมีรถแล้วอยากจะไปไหนมันก็สะดวก ทีนี้ละครับค่าน้ำมันบานปลาย อีกเรื่องที่ต้องคิด คือต่อให้อยู่บ้านกับ พ่อ แม่ แต่ถ้าทำงานมีเงินเดือนแล้ว ต้องแบ่งเบาภาระที่บ้านด้วยครับ ค่าน้ำ/ค่าไฟ/ค่ากินอยู่ของคนในบ้าน ไม่ใช่จะเอาเงินเดือนไปผ่อนรถ และใช้จ่ายส่วนตัวอย่างเดียว

จากคุณ balelofon

5.ซื้อรถมือ1 ราคาถูกสุด

1) ซื้อรถมือ1 ราคาถูกสุดตอนนี้อยู่ 4แสน-5แสน (มิราจ รุ่นล่างๆก็ประมาณเดียวกัน)

2) เก็บเงินดาวให้ได้เยอะๆ 30-50% ค่าผ่อนจะถูกลง และ เลือกผ่อนให้สั้นลง

3) เก็บเงินล่วงหน้า จากค่าผ่อน ไปอีก 3-6 เดือน (ฉุกเฉิน)

4) ระหว่างเดือน นอกจากค่าผ่อนแล้ว ให้เผื่อเงินไปอีกครึ่งนึงของเงินผ่อนต่อเดือน เป็นค่า น้ำมัน/ทางด่วน/ที่จอดรถ/ประกัน/ค่าบำรุงดูแลรักษา ฯลฯ

เท่าที่คำนวนดูแบบสบายๆ น่าจะใช้เงินราวๆ 8-10 พันบาท ต่อเดือน เหลือเงินใช้ 2-3พัน ไหวไหมครับ แบ่งเบาภาระทางบ้านได้หรือยัง เป็นข้าราชการ อาจจะมีสวัสดิการอื่นรองรับพอสมควร และอาจถูกกว่าที่ผมคำนวณ ลองคำนวนเองก่อนครับ ถ้าทำได้ ก็จัดเลยครับ

จากคุณ KkTpCmu

6.เพิ่มศักยภาพให้ตัวเอง

15,000 ผ่อนเดือนละ 7,300 ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ของแพงแบบนี้ แถมผ่อนตั้ง 84 เดือน (7 ปีแน่ะ)

ถ้าไม่อยากเครียดเรื่องค่าใช้จ่ายในอนาคตอย่าพึ่งซื้อเลยครับ  ถามว่าตอนนี้ถ้ามีเงินเดือน 15,000 ต้องเก็บตังค์ยังไงถึงซื้อรถได้ ?

เก็บตังค์เอาไว้แล้วเอาไปเพิ่มศักยภาพให้ตัวเองให้มีความสามารถโดดเด่นในสายงานตัวเองให้ได้ครับ

อาทิ ภาษา เรียนเพิ่ม ฯลฯ เผลอๆปีสองปีเงินกระโดดไป 2-3 หมื่นสบายครับถึงตอนนั้นคุณก็ผ่อนได้สบายๆ

โปรโมชั่นน่ะมันมาเรื่อยๆแหละครับโดยเฉพาะของเชฟเพราะรถเขา… คุณเจอค่ารถยกถ้าไปดับกลางทาง

ต่ำๆก็ 1,200 บาทนะครับ เดือนนึงคุณยกสัก 2 ครั้ง 2,400+ค่าผ่อน 7,300 = 9,400 บาท

แค่นี้คุณก็ต้องจอดรถไว้ที่บ้านนิ่งๆเพราะไม่มีค่าน้ำมันแล้วครับ

จากคุณ B.line

7.ไม่ควรดาวร์น้อยผ่อนนาน

ซื้อได้ถ้าคุณมีเงินเก็บเยอะพอ ไม่สนับสนุนดาวร์น้อยผ่อนนาน แต่ถ้ามีเงินเก็บเยอะหรือมีผู้สนับสนุนดาวร์เยอะๆ ผ่อนน้อยๆ OK ผมก็เงินเดือนน้อยผม ก็เลยต้องเก็บเงินดาวร์ไว้มากๆ ค่อยซื้อ เพราะกำลังผ่อนมีจำกัด ต้องเก็บดาวร์ให้ได้มากกว่า 30% แล้วก็ผ่อนยาวหน่อย ค่างวดน้อยๆ พอได้ ผมคิดก่อนเลยว่าผ่อนได้เท่าไหร เช่นเดือนละ 5000 ผมก็จะเก็บเงินทุกเดือนเดือนละ 5000 ไป 2-3 ปี เสมือนทดลองผ่อน ถ้าสามารถทำได้ โดยไม่เดือดร้อน จนครบ 2-3 ปีขึ้นกับยอดดาวร์ที่ต้องการ ก็เอาเงินนั้นมาดาวร์รถ แล้วก็ผ่อนต่อไปด้วยเงินจำนวนเท่าเดิม จนผ่อนหมด แต่ถ้าทำไม่ได้ก็คงต้องปรับเป้าหมาย ให้เหมาะสม ทำแบบนี้ ถึงไม่ได้รถ ก็ได้เงินเก็บ

จากคุณ สมาชิกหมายเลข 1230792